ทำกำไรให้แบรนด์ผ่านการขายขำจาก Marketing Meme พร้อมตัวอย่าง
Khun BIg 04 ก.พ. 2024 07:38
เมื่อคอนเทนต์เป็นส่วนหนึ่งของคนในปัจจุบันและผู้คนก็ชื่นชอบเนื้อหาที่สะท้อนสังคมแต่ติดตลกซึ่งมักจะเสพสื่อที่เรียกกันว่า “มีม” ที่แค่เล่าผ่านภาพ หรือใส่ข้อความเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็สามารถสื่อให้เข้าใจและสร้างเสียงหัวเราะกันได้ง่าย ๆ จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมีมถึงเรียกยอดเอนเกจเมนต์บนโซเชียลมีเดียได้เป็นอย่างดีและมีหลายที่นำ Marketing Meme ทำการตลาดซึ่งจะดีอย่างไร แบรนด์ไหนทำไปแล้วบ้าง พร้อมทริคการเลือกมีมให้เจาะกลุ่มได้ตรงใจ
Meme-Marketing คืออะไร ?
มีม (Meme) คำสั้น ๆ แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ความหมายที่แท้จริงว่าคืออะไร ซึ่งก็คือคอนเซ็ปต์ไอเดียที่นิยมใช้ภาพ Gif หรือข้อความ หรืออาจจะเป็นคำพูดของดารา ศิลปิน หรือนักร้องจากการสัมภาษณ์และคลิปวีดิโอที่โดนใจผู้รับชมแล้วตัดมาทำเป็นมีมส่งต่อกันในสื่อโซเชียลต่าง ๆ ที่ในปัจจุบันจะเห็นได้ชัดว่ามีมีมนับเป็นสากลทั่วโลกที่ผู้คนนิยมนำมาใช้จนเกิดเป็นเพจมีม เธรดบทสนทนามีมต่าง ๆ แจกกัน social Media มากมาย
และนี่จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เกิด Meme Marketing ที่นำมาใช้ในแง่การตลาดเพื่อเน้นใช้เสียงหัวเราะ ความสนุกสนาน หรือการใช้มุกเสียดสีตามเทรนด์สังคมในการขณะนั้นมาใช้กับแบรนด์ซึ่งนับกลยุทธ์ที่น่าสนใจเพราะด้วยความตลก จดจำได้ง่ายจะช่วยให้เข้าถึงผู้คนได้ง่าย กระตุ้นการมีส่วนร่วมซึ่งหากโดนใจก็ทำให้คนแชร์ไปเป็นวงกว้างกลายเป็นแบรนด์มีผู้ติดตาม หรือผู้คนรู้จักมากขึ้น
เทียบชัดข้อดี VS ข้อเสีย ของ Meme-Marketing
สำหรับเจ้าของธุรกิจ แบรนด์ต่าง ๆ หรือนักการตลาดที่ต้องการนำมีมไปใช้ในการตลาดอยากจะพูดถึง Meme-Marketing ข้อดีกันก่อนคือ ทำได้ง่าย ไม่ต้องจ่ายเงิน เข้าถึงผู้คนได้เป็นวงกว้างหากมีมที่ทำขึ้นมาเป็นไวรัลซึ่งทำให้เกิดการแชร์และการมีส่วนร่วมที่ให้ผลตอบรับดีแบรนด์กลายเป็นที่รู้จักได้อย่างรวดเร็ว แต่ในขณะเดียวกัน Meme-Marketing ข้อเสียคือเป็นสิ่งที่มีอายุสั้นเพราะเกิดขึ้นตามกระแสแค่เพียงระยะเวลาหนึ่งซึ่งผ่านไปสักพักก็ไม่น่าสนใจแล้วซึ่งอาจจะต้องอาศัยการจับกระแสให้ทันจึงจะก่อให้เกิดผลดี
Meme-Marketing ตัวอย่างที่ได้รับความนิยม
อย่าลืม! ว่าทุกความสำเร็จสามารถเกิดขึ้นได้จากการลงมือทำเสมอและคุณเองก็สามารถเป็นหนึ่งในแบรนด์นั้นได้ แต่ก่อนจะไปถึงก็อยากให้เห็นตัวอย่างแบรนด์ หรือธุรกิจที่ทำ Meme-Marketing แล้วได้รับความนิยมเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของตัวอย่างให้คุณได้ศึกษาและลองลงมือทำ
The Living Potion ที่มาจากตัวพ่อของวงการแร็ปเปอร์ Drake ซึ่งได้ปล่อยอัลบั้ม “Certified Lover Boy” ออกมาแล้วก็กลายมาเป็นไวรัลทันทีในเวลาไม่นานและก็มีผู้คนเอาหน้าปกอัลบั้มของเขาไปครีเอทใหมจนเกิดเป็น Meme ขึ้นมามากมายซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีแบรนด์น้ำหอมอย่าง The Living Potion ที่ได้หยิบเอามีมนี้ไปเสนอโปรดักส์แต่ละชนิดไปบนภาพซึ่งถือเป็นตัวอย่างการทำคอนเทนต์ที่สนุกในกระแสที่ช่วยเพิ่มการโอกาสให้คนได้รู้จักแบรนด์มากขึ้น
Netflix’s Strong Black Lead จากเจ้าพ่อ Netfliex ที่สร้างมีมของตัวเองขึ้นมาได้โดยการหยิบเอาผลงานมาใช้โปรโมทหนังเรื่อง Blood & Water โดยการนำเอาภาพจากซีรีส์ออกมาท้าทายคนดูว่าจะเลือกอะไรดีระหว่างซีรีส์ซีซันใหม่ที่กำลังมากับแผนในการพักผ่อนซึ่งถือว่าตรง Inside ของผู้คนที่นิยมดูสตรีมมิ่งในปัจจุบันจึงเกิดเป็นกระแสตอบรับที่ดีต่อแบรนด์
Diamond Express Travels ซึ่งน่าจะเป็นมีมที่หลายคนคุ้นเคยกันดีกับการแสดงอาการไม่ถูกใจกับถูกใจใช่เลยของ Drake ที่มาจากท่าเต้นในคลิปวีดิโอที่ทำเอาหลายคนถูกใจอย่างมากซึ่ง Diamond Express Travels บริษัทตัวแทนการท่องเที่ยวก็ได้หยิบเอาใช้เล่นเพื่อให้เกิดความสนุกโดยเปรียบเทียบการวางแผนเดินทางด้วยตัวเองกับใช้ Agent มาจัดการให้ซึ่งถือเป็นการสื่อสารง่ายๆ ที่ช่วยดึงกระแสที่เกิดอยู่ให้เข้ากับธุรกิจที่ทำ
Hydrop.io ซึ่งอาจจะเป็นมีมที่มีมานานแล้ว แต่ก็ยังเห็นคนใช้อยู่เป็นระยะ โดยเป็นภาพผู้ชายที่หันไปสนใจผู้หญิงคนอื่นมากกว่าแฟนตัวเองจนทำให้อีกฝ่ายไม่พอซึ่ง Hydrop.io บริษัทน้ำจากอินเดียก็ได้หยิบมีมนี้มาเล่นอย่างง่าย ๆ ด้วยสื่อถึงภาพน้ำสภาพเป็นด่าง (pH>8.0) ที่น่าสนใจกว่าน้ำเปล่าธรรมดาทั่วไปซึ่งเป้นน้ำที่เหล่าคนยุคใหม่สนใจอยู่ได้แล้วจึงเป็นการสื่อสารที่ดีเลยทีเดียว
KAI Collections แบรนด์ชุดว่ายน้ำจากอียิปต์ที่นำเสนอ Black wojak memes ซึ่งเป็นมีมการ์ตูนล้อเลียนที่เริ่มแพร่หลายมาในปี 2020 โดนแบรนด์นำเอารูปง่าย ๆ ของสาวผิวเข้มสองคนมาเจอกันซึ่งมีความชอบในเสื้อผ้าของ KAI Collections เหมือนกันคือประมาณว่าถ้าคุณใส่ KAI Collections เราคือเพื่อนกันซึ่งเป็นการขายเสื้อผ้าตรง ๆ ที่ไม่ต้องคิดเยอะ
ข้อควรรู้ก่อนเลือกใช้ MEME ทำการตลาด
โดยหากคุณต้องการเลือก Marketing Meme ในการทำการตลาดให้แก่แบรนด์ หรือธุรกิจของคุณสิ่งที่ควรรู้หลัก ๆ มีดังนี้
รู้จักแบรนด์ของตนเองก่อนว่าเกี่ยวกับอะไร เช่น เครื่องสำอางค์ ผลิตภัณฑ์สำหรับทำความสะอาดผิว เสื้อผ้า หรืออะไรเพื่อที่ง่ายต่อการเลือกใช้มีมให้เข้ากับแบรนด์
จากนั้นต้องหัวข้อ (Topic) ในการสื่อสารที่จะเทียบกับมีมที่เลือกว่าเข้ากับหัวข้อที่แบรนด์จะสื่อหรือไม่
หากนำมีมนี้ไปใช้จะสื่อตรงกับกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์หรือเปล่า
เมื่อตอบโจทย์แล้วก็ต้องเลือกช่วงเวลาในการใช้มีมให้เหมาะสมกับมีมนั้น ๆ ซึ่งก็ควรเป็นช่วงที่ยังอยู่ในกระแส คนกำลังนิยม คือต้องคิดไวทำไวเพราะหากผ่านไปเดี่ยวตกเทรนด์
หากอยากแนะนำเพิ่ม! เลือกมีมที่เป็นมุกคลาสสิกบ้างเพราะจะช่วยให้เกาะกระแสได้ในระยะยาว
ที่พลาดไม่ได้! ต้องตรวจสอบลิขสิทธิ์การใช้ภาพก่อนเสมอ ซึ่งหากไม่อยากซ้ำก็นำมาทำเป็นภาพของแบรนด์ใหม่เองจะดีกว่า
เน้นย้ำ! การทำมีมใด ๆ ควรคงความเป็นตัวเองเอาไว้เพื่อให้ลูกค้าได้จดจำเราได้ที่สำคัญไม่ต้องสื่อข้อความ น้ำเสียง หรือเนื้อหาใด ๆ ที่ส่อไปทางความก้าวร้าว รุนแรง หรือเหน็บแนมบุคคลอื่น ๆ ส่วนเนื้อหาที่ใช้ทำมีม แนะนำให้ภาษากึ่งทางการเพราะเข้าใจได้ง่าย แต่ต้องกระชับ เกาะกระแสและไม่ Hard Sell ขายสินค้า หรือผลิตภัณฑ์ของตัวเองมากเกินไป
การทำ Meme-Marketing จึงอาจจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกทางการตลาดของแบรนด์ หรือธุรกิจต่าง ๆ ในการนำไปใช้เนื่องจากสามารถทำให้เกิดกระแส หรือไวรัลได้ง่ายยิ่งในช่วงมีมนั้น ๆ เป็นกระแสแล้วเรานำมาปรับให้เข้ากับแบรนด์เพื่อเกาะกระแสที่กำลังเกิดขึ้นซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสให้แบรนด์ได้กลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ต้องคิดไว ทำไวเพราะมีมส่วนใหญ่จะเป็นกระแสในช่วงสั้น ๆ
หากใครกำลังทำการตลาด หรือกำลังมองหาเครื่องมือที่ช่วยให้ระบบรายงานสต๊อกช่วยให้ธุรกิจราบรื่นก็สามารถเข้ามาสอบถาม หรือขอรับคำปรึกษาเพิ่มเติมได้ที่ BigSeller
สนใจใช้ระบบจัดการร้านค้าครบวงจร
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
Line: @bigseller