การส่งเสริมการขาย (Sales Promotion) หรือที่เรารู้จักกันในชื่อเรียกสั้นๆ ว่า "โปรโมชั่น" เป็นเทคนิคหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มยอดขายให้ร้านของคุณพ่อค้าแม่ค้าได้ค่ะ โดยที่เห็นได้บ่อยๆ เลย คือ โปรโมชั่นแบบลด แลก แจก แถม ทั้งสี่อันนี้เป็นโปรโมชั่นแบบที่เบสิคที่สุดและทำได้ง่ายมากๆ วันนี้ พิมเพลินอยากจะนำโปรโมชั่น 4 แบบมาอธิบายคร่าวๆ เพื่อให้คุณพ่อค้าแม่ค้าสามารถเลือกและนำไปปรับใช้กับร้านของตัวเองกันค่ะ :)

ลด

โปรโมชั่นแบบแรกนี้ เป็นโปรโมชั่นที่เห็นได้บ่อยมากเพราะทำได้ง่ายที่สุด การลดราคามีทั้งลดราคาเป็นเปอร์เซนต์ (%) ซึ่งเป็นวิธีที่แบรนด์ส่วนใหญ่เลือกใช้ เช่น แบรนด์ในห้างก็จะมีจัดลดราคาเป็นฤดูกาล ข้อดีของการลดราคาแบบนี้ คือช่วยให้ร้านค้าที่มีสินค้าจำนวนมากสามารถจัดการได้ง่าย นอกจากนั้น ตัวเลข 50% หรือ 80% ยังมีผลทางจิตวิทยาในการตัดสินใจซื้อของลูกค้าอีกด้วยค่ะ หรือถ้าคุณพ่อค้าแม่ค้าเป็นเจ้าของร้านออนไลน์เปิดใหม่ที่มีสินค้าไม่มาก อยากจะลดราคาเป็นราคาที่เราพอใจก็ได้ โดยจะต้องถามใจว่าเรายอมเอากำไรน้อยลงได้เท่าไหร่ แต่ขอบอกว่าโปรโมชั่นการลดราคาอาจจะเหมาะกับสินค้าขายเอากำไรสูงอย่าง เสื้อผ้า หรือเครื่องสำอางนะคะ ถ้าคุณพ่อค้าแม่ค้าขายสินค้าที่ได้กำไรน้อยก็ต้องคิดให้ดี เพราะการลดราคาถึงแม้จะช่วยให้ขายสินค้าได้เยอะขึ้นจริง แต่บางทีค่าตอบแทนอาจไม่คุ้มค่าเหนื่อยที่เสียไปก็ได้ค่ะ

แลก

เชื่อว่าหลายๆ คนคงต้องเคยตกเป็นเหยื่อโปรโมชั่น "แลก" แน่นอน โปรโมชั่นแบบนี้เราคงเคยเห็นที่ร้านสะดวกซื้อ หรือร้านชานมไข่มุก โดยมีหลักการง่ายๆ คือทางร้านจะให้บัตรสะสมแต้มหรือสิ่งที่ใช้เพื่อสะสม (เช่น แสตมป์) กับเรา เมื่อเราสะสมแต้มครบตามที่เขากำหนดก็สามารถนำไปแลกรับของรางวัล ซึ่งอาจเป็นของฟรีจากทางร้าน หรืออาจเป็นการแลกซื้อของราคาแพงในราคาถูกลงก็ได้ค่ะ เจ้าของร้านออนไลน์ก็อาจนำวิธีนี้มาปรับใช้ โดยการจดจำลูกค้าขาประจำ (จะใช้ฟีเจอร์ BigSeller สำหรับแยกลูกค้าเป็นตัวช่วยก็ได้นะคะ) หากใครซื้อครบจำนวนที่เรากำหนดก็อาจมอบของขวัญให้เป็นรางวัลก็ได้ วิธีนี้มีข้อดีตรงที่จะช่วยให้ลูกค้าไม่หนีไปซื้อสินค้าจากร้านอื่น แม้จะเจ้าของร้านจะไม่ได้เงินตอบแทนเป็นกอบเป็นกำในเวลาอันสั้น แต่ก็มีประโยชน์ในระยะยาวจากการซื้อที่สม่ำเสมอของลูกค้าค่ะ

แจก

แน่นอนว่าของฟรีใครๆ ก็ชอบ การแจกเลยเป็นอีกหนึ่งโปรโมชั่นที่น่าสนใจไม่น้อยเลยล่ะค่ะ โดยเราอาจเลือกแจกของราคาแพง ถูก หรือจะแจกสินค้าจากทางร้านก็ได้ โดยอาจใช้การจับรางวัล (เช่น สุ่มตัวเลขรหัสพัสดุของลูกค้า) การแข่งขัน (เช่น ตั้งโพสต์ให้ลูกค้าร่วมสนุกตอบคำถาม) หรือสุ่มแจกของให้ลูกค้าไปเลยฟรีๆ ก็ได้ค่ะ โดยวิธีนี้มีข้อดีคือสามารถช่วยสร้างความรู้สึกผูกพันระหว่างลูกค้ากับทางร้าน ทำให้เขารู้สึกมีส่วนร่วม หากคุณพ่อค้าแม่ค้าใช้วิธีการดึงให้ลูกค้าเข้ามาตอบคำถามในหน้าเพจได้ ก็จะสามารถช่วยเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าเห็นโพสต์ต่อๆ ไปในอนาคตของเพจได้ เพราะเฟสบุ๊คมีแนวโน้มจะเลือกแสดงโพสต์ที่ลูกเพจมีส่วนร่วม (ไลค์, คอมเมนต์, แชร์) มากๆ ก่อนโพสต์อื่นๆ ด้วยนะคะ

แถม

การแถมเป็นอีกหนึ่งโปรโมชั่นที่ช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าอยากซื้อสินค้าจากร้านได้มากขึ้นค่ะ โดยเราอาจเลือกแถมสินค้าของร้าน เช่น ถ้าคุณขายครีมทาผิว เวลามีลูกค้ามาซื้อสินค้า ก็แถมครีมชนิดใหม่ๆ ให้ลูกค้าไปด้วยเพื่อให้เขาได้ลองใช้ วิธีนี้นอกจากจะทำให้ลูกค้ารู้สึกดีกับร้านของคุณแล้ว ยังจะเพิ่มโอกาสให้เขากลับมาซื้อครีมชนิดใหม่ของคุณด้วยนะคะ หรือถ้าคุณพ่อค้าแม่ค้าขายของที่มีราคาแพงไม่สามารถนำมาแถมได้ (เช่น เครื่องประดับ) ก็อาจจะแถมสินค้าที่ดูดีแต่มีราคาไม่แพงให้ลูกค้ารู้สึกดีก็ได้ หรืออาจจะติดต่อจัดโปรโมชั่นร่วมกับร้านที่ขายสินค้าชนิดอื่น เช่น ทำโปรโมชั่นร่วมกับร้านกาแฟ นำบัตรลดราคากาแฟมาแจกให้คุณลูกค้าก็ดีไม่แพ้กันนะคะ

นอกจากจะช่วยกระตุ้นยอดขายของร้านได้แล้ว การจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายยังจะช่วยให้ร้านของคุณพ่อค้าแม่ค้าดูมีความเคลื่อนไหวไม่หยุดนิ่ง ช่วยให้ลูกค้าไม่ลืมร้านของคุณ และรู้สึกว่าร้านของคุณเป็นร้านที่มีการอัพเดทอยู่เสมอ ในอนาคตลูกค้าก็มีโอกาสที่ลูกค้าจะคอยเข้ามาสำรวจหน้าร้านออนไลน์ของคุณเพื่อดูว่ามีโปรโมชั่นใหม่ๆ อะไรหรือไม่ แต่ถ้าไม่อยากคอยลุ้นว่าลูกค้าจะเห็นโปรโมชั่นหรือเปล่า คุณพ่อค้าแม่ค้าสามารถใช้ฟีเจอร์ ของ BigSeller เพื่อส่งข้อความแจ้งโปรโมชั่นแก่ลูกค้าทีละหลายๆ คนพร้อมกันก็ดีไม่น้อยเลยล่ะค่ะ