6 ปัญหาในการขายของออนไลน์สำหรับคนที่ทำธุรกิจการค้าขายและวิธีรับมือ
Khun Big 23 ก.ย. 2022 10:11
ทุกวันนี้มีหลายๆคนทยอยเข้าร่วมตลาดการทำธุรกิจออนไลน์กันมากขึ้น จากการทำธุรกิจออฟไลน์หันมาทำธุรกิจออนไลน์ เช่น เปิดเว็บไซต์ขายขของออนไลน์ ค้าขายออนไลน์บน Marketplace เช่น Shopee Lazada TikTok
แต่ในขณะเดียวกันปัญหาการขายของออนไลน์ก็ตามมาด้วยเช่นกัน วันนี้จะมาดูกันเลยว่า 5 ปัญหาในการขายของออนไลน์สำหรับคนที่ทำธุรกิจการค้าขายและเทคนิกรับมือ
รูปภาพจาก istockphoto
1. ไม่มีเวลาอัพเดทสินค้า
พ่อค้าแม่ค้าขายของออนไลน์ต้องเตรียมงานหลายอย่าง เช่น ลงสินค้าใหม่ ตกแต่งร้านค้า จัดซื้อสินค้า รับสินค้าเข้าคลัง จัดการคลังสินค้า เป็นต้น ซึ่งจะทำให้ไม่สามารถอัพเดทข้อมูลสินค้าและลงสินค้าใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง หรือต้องใช้เวลานานในการลง/ลบสินค้าเนื่องจากปัญหาสต็อกสินค้า ทำให้ข้อมูลในหน้าการขายที่ผู้ซื้อสั่งซื้อไม่ตรงกับตามจริง ส่งผลกระทบต่อการสร้างรายได้
วิธีรับมือ: สามารถใช้เครื่องมือ เช่น ระบบหลังบ้าน BigSeller มาช่วยลงสินค้า อัพเดทสินค้า และปรับสต็อกสินค้าได้อย่างรวดเร็ว ลดอัตราการเสียลูกค้า
2. ทะลุกลุ่มเป้าหมายไม่ถูกต้อง
พ่อค้าแม่ค้าได้เปิดร้านค้าและขายของออนไลน์ แต่ทะลุกกลุ่มเป้าหมายไม่ใช่ที่อยากต้องการ หรือไม่รู้ว่ากลุ่มเป้าหมายคือใคร ทำให้ไม่มีลูกค้าเข้ามาร้านค้าซื้อสินค้า
วิธีรับมือ: ผู้ขายสามารถแชร์ลิงค์สินค้าที่ได้รับความนิยมหรือรีวิวสินค้าในช่องทางการซื้อขายสินค้าแบบหลายช่องทาง อีกทั้ง ไปดูที่ที่กลุ่มเป้าหมายที่เล่นบ่อย เช่น โซเชียลมีเดีย Facebook IG ดูว่ากลุ่มเป้าหมายมีความสนใจกับอะไรบ้าง สำรวจลูกค้าเพื่อรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์
3. ไม่ได้จัดการรีวิวเชิงลบโดยเร็วที่สุด
ปกติผู้ซื้อซื้อสินค้าแล้วจะรีวิวความรู้สึกและประสบการณ์หลังได้รับสินค้า บางครั้งผู้ขายได้จัดส่งสินค้าตามที่ลูกค้าสั่งและส่งถึงมือลูกค้าอย่างปลอดภัย แต่ลูกค้าให้รีวิวที่ไม่ดีโดยไม่มีเหตุผล และผู้ขายไม่ได้ปรากฎและจัดการโดยเร็วที่สุด จะมีผลกระทบต่อผู้ซื้อคนอื่นที่มีความสนใจจะซื้อ
วิธีรับมือ: ผู้ขายสามารถรวบรวมรีวิวเชิงลบเป็นเวลาประจำ วิเคราะห์ข้อมูลและพฤติกรรมการรีวิวของลูกค้าเพื่อหาวิธีการแก้ไขที่เหมาะสม
4. ไม่มีเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลการขาย
ร้านค้าขายของออนไลน์ทุกวัน แต่มักจะลืมว่าต้องการเครื่องมือที่มาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลการขายของร้านค้าออนไลน์ จะเปรียบเหมือนไม่มีทิศทางและเป้าหมายที่ชัดเจน โดยจะทำให้ไม่รู้เลยว่ากระแสของตลาดหรือพฤติกรรมการซื้อขายของผู้ซื้อเป็นอย่างไร และควรวางแผนกลยุทธ์การตลาดอย่างไร
วิธีรับมือ: สามารถหาเครื่องมือช่วยวิเคราะห์ข้อมูลการขายของร้านค้าได้ เช่น ระบบ BigSeller สามารถช่วยวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างครบถ้วน มีผลประโยชน์ต่อการวางแผนการตลาด
5. ไม่มีระบบหลังบ้านช่วยดูแลต็อก และไม่เป็นระบบ
ทุกวันนี้ ผู้ขายส่วนมากได้เปิดช่องทางการขายหลายที่ เช่น เว็บไซต์ Shopee Lazada TikTok Facebook IG เป็นต้น แต่จะปวดหัวกับสต็อกไม่ได้อัพเดทพร้อมกัน ทำให้การดูแลสต็อกยุ่งยากและซับซ้น
วิธีรับมือ: สามารถใช้ระบบหลังบ้าน BigSeller มาช่วยจัดการสต็อกจากหลายร้านค้าหลายแพลตฟอร์มพร้อมกัน ช่วยซิงค์สต็อกแบบเรียลไทม์ ลดความยุ่งยากในการดูแลสต็อก
6. ไม่มีระบบติดตามขนส่ง
หากลูกค้าสั่งซื้อสินค้ากับร้านค้าของคุณ อยากทราบพัสดุของตัวเองถึงไหนแล้ว และจะส่งถึงมือตัวเองประมาณวันไหน หากผู้ขายไม่รู้เนื่องจากไม่มีระบบติดตามขนส่ง อาจจะทำให้ลูกค้าไม่มีความเชื่อถือกับร้านค้าได้ ลดอัตราการซื้อสินค้าอีกต่อไปจากลูกค้า
วิธีรับมือ: ร้านค้าสามารถค้นหาระบบติดตามขนส่งที่คนอื่นใช้บ่อย ช่วยค้นหาสถานะได้อย่างรวดเร็ว หรือเสนอให้ลูกค้าให้ตรวจสอบเอง ทั้งเพิ่มความประทับใจที่ดีกับลูกค้า และเพิ่มประสิทธิภาพในส่วนการทำงานของตัวเองอีกด้วย
แต่ในขณะเดียวกันปัญหาการขายของออนไลน์ก็ตามมาด้วยเช่นกัน วันนี้จะมาดูกันเลยว่า 5 ปัญหาในการขายของออนไลน์สำหรับคนที่ทำธุรกิจการค้าขายและเทคนิกรับมือ
รูปภาพจาก istockphoto
1. ไม่มีเวลาอัพเดทสินค้า
พ่อค้าแม่ค้าขายของออนไลน์ต้องเตรียมงานหลายอย่าง เช่น ลงสินค้าใหม่ ตกแต่งร้านค้า จัดซื้อสินค้า รับสินค้าเข้าคลัง จัดการคลังสินค้า เป็นต้น ซึ่งจะทำให้ไม่สามารถอัพเดทข้อมูลสินค้าและลงสินค้าใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง หรือต้องใช้เวลานานในการลง/ลบสินค้าเนื่องจากปัญหาสต็อกสินค้า ทำให้ข้อมูลในหน้าการขายที่ผู้ซื้อสั่งซื้อไม่ตรงกับตามจริง ส่งผลกระทบต่อการสร้างรายได้
วิธีรับมือ: สามารถใช้เครื่องมือ เช่น ระบบหลังบ้าน BigSeller มาช่วยลงสินค้า อัพเดทสินค้า และปรับสต็อกสินค้าได้อย่างรวดเร็ว ลดอัตราการเสียลูกค้า
2. ทะลุกลุ่มเป้าหมายไม่ถูกต้อง
พ่อค้าแม่ค้าได้เปิดร้านค้าและขายของออนไลน์ แต่ทะลุกกลุ่มเป้าหมายไม่ใช่ที่อยากต้องการ หรือไม่รู้ว่ากลุ่มเป้าหมายคือใคร ทำให้ไม่มีลูกค้าเข้ามาร้านค้าซื้อสินค้า
วิธีรับมือ: ผู้ขายสามารถแชร์ลิงค์สินค้าที่ได้รับความนิยมหรือรีวิวสินค้าในช่องทางการซื้อขายสินค้าแบบหลายช่องทาง อีกทั้ง ไปดูที่ที่กลุ่มเป้าหมายที่เล่นบ่อย เช่น โซเชียลมีเดีย Facebook IG ดูว่ากลุ่มเป้าหมายมีความสนใจกับอะไรบ้าง สำรวจลูกค้าเพื่อรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์
3. ไม่ได้จัดการรีวิวเชิงลบโดยเร็วที่สุด
ปกติผู้ซื้อซื้อสินค้าแล้วจะรีวิวความรู้สึกและประสบการณ์หลังได้รับสินค้า บางครั้งผู้ขายได้จัดส่งสินค้าตามที่ลูกค้าสั่งและส่งถึงมือลูกค้าอย่างปลอดภัย แต่ลูกค้าให้รีวิวที่ไม่ดีโดยไม่มีเหตุผล และผู้ขายไม่ได้ปรากฎและจัดการโดยเร็วที่สุด จะมีผลกระทบต่อผู้ซื้อคนอื่นที่มีความสนใจจะซื้อ
วิธีรับมือ: ผู้ขายสามารถรวบรวมรีวิวเชิงลบเป็นเวลาประจำ วิเคราะห์ข้อมูลและพฤติกรรมการรีวิวของลูกค้าเพื่อหาวิธีการแก้ไขที่เหมาะสม
4. ไม่มีเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลการขาย
ร้านค้าขายของออนไลน์ทุกวัน แต่มักจะลืมว่าต้องการเครื่องมือที่มาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลการขายของร้านค้าออนไลน์ จะเปรียบเหมือนไม่มีทิศทางและเป้าหมายที่ชัดเจน โดยจะทำให้ไม่รู้เลยว่ากระแสของตลาดหรือพฤติกรรมการซื้อขายของผู้ซื้อเป็นอย่างไร และควรวางแผนกลยุทธ์การตลาดอย่างไร
วิธีรับมือ: สามารถหาเครื่องมือช่วยวิเคราะห์ข้อมูลการขายของร้านค้าได้ เช่น ระบบ BigSeller สามารถช่วยวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างครบถ้วน มีผลประโยชน์ต่อการวางแผนการตลาด
5. ไม่มีระบบหลังบ้านช่วยดูแลต็อก และไม่เป็นระบบ
ทุกวันนี้ ผู้ขายส่วนมากได้เปิดช่องทางการขายหลายที่ เช่น เว็บไซต์ Shopee Lazada TikTok Facebook IG เป็นต้น แต่จะปวดหัวกับสต็อกไม่ได้อัพเดทพร้อมกัน ทำให้การดูแลสต็อกยุ่งยากและซับซ้น
วิธีรับมือ: สามารถใช้ระบบหลังบ้าน BigSeller มาช่วยจัดการสต็อกจากหลายร้านค้าหลายแพลตฟอร์มพร้อมกัน ช่วยซิงค์สต็อกแบบเรียลไทม์ ลดความยุ่งยากในการดูแลสต็อก
6. ไม่มีระบบติดตามขนส่ง
หากลูกค้าสั่งซื้อสินค้ากับร้านค้าของคุณ อยากทราบพัสดุของตัวเองถึงไหนแล้ว และจะส่งถึงมือตัวเองประมาณวันไหน หากผู้ขายไม่รู้เนื่องจากไม่มีระบบติดตามขนส่ง อาจจะทำให้ลูกค้าไม่มีความเชื่อถือกับร้านค้าได้ ลดอัตราการซื้อสินค้าอีกต่อไปจากลูกค้า
วิธีรับมือ: ร้านค้าสามารถค้นหาระบบติดตามขนส่งที่คนอื่นใช้บ่อย ช่วยค้นหาสถานะได้อย่างรวดเร็ว หรือเสนอให้ลูกค้าให้ตรวจสอบเอง ทั้งเพิ่มความประทับใจที่ดีกับลูกค้า และเพิ่มประสิทธิภาพในส่วนการทำงานของตัวเองอีกด้วย