Dropship คืออะไร ขายของแบบไม่มีสต็อกต้องทำอย่างไร
น้องบิ๊ก 23 ธ.ค. 2024 03:32
ในยุคดิจิทัลปัจจุบัน การขายของออนไลน์กลายเป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่งหนึ่งในวิธีที่สามารถช่วยให้ผู้ที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์ได้ง่ายขึ้นคือ "Dropship" หรือการขายของแบบไม่มีสต็อก แนวทางนี้ช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุนในสินค้าคงคลัง และไม่ต้องมีพื้นที่เก็บสินค้า ซึ่งเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ไม่มีทุนนำสินค้าสต็อกมาเก็บไว้ล่วงหน้า ในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับ Dropship และวิธีเริ่มต้นขายของแบบไม่มีสต็อกกัน

Dropship คืออะไร
Dropship คือโมเดลธุรกิจที่ผู้ขายไม่จำเป็นต้องลงทุนในสินค้าหรือเก็บสต็อกไว้ล่วงหน้า เมื่อมีลูกค้าสั่งซื้อสินค้าจากร้านค้าออนไลน์ ผู้ขายจะสั่งซื้อสินค้าจากซัพพลายเออร์หรือผู้จัดจำหน่ายที่ทำการจัดส่งสินค้าโดยตรงไปยังลูกค้า โดยที่ผู้ขายไม่ต้องจัดการกับสินค้าเองเลย ซึ่งทำให้ธุรกิจแบบ Dropship เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นขายของออนไลน์โดยไม่ต้องมีเงินทุนจำนวนมาก
ข้อดีของการทำ Dropship
ข้อเสียของการทำ Dropship

เริ่มต้นทำ Dropship อย่างไร
การเริ่มต้นทำ Dropship ไม่ได้ยากเกินไป แต่ต้องมีขั้นตอนที่ชัดเจนในการวางแผนและดำเนินการอย่างถูกต้อง ต่อไปนี้คือขั้นตอนการเริ่มต้นธุรกิจ Dropship:
1. เลือกสินค้าที่จะขาย
การเลือกสินค้าที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญมาก คุณควรเลือกสินค้าที่มีความต้องการสูงในตลาด แต่ไม่ควรเลือกสินค้าที่มีการแข่งขันสูงเกินไป ควรพิจารณาเรื่องคุณภาพ ราคา และความแตกต่างจากคู่แข่ง
2. เลือกแพลตฟอร์มการขาย
คุณสามารถเลือกขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ เช่น Shopee, Lazada, TikTok หรือ Shopify ขึ้นอยู่กับความสะดวกและความถนัดในการใช้งาน
3. หาผู้จัดจำหน่ายหรือซัพพลายเออร์
การเลือกซัพพลายเออร์หรือผู้จัดจำหน่ายที่น่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญ คุณสามารถค้นหาซัพพลายเออร์หรือผู้จัดจำหน่ายที่มีบริการ Dropship ผ่านเว็บไซต์ต่างๆ เช่น ซัพพลายเออร์ในประเทศ, AliExpress หรือ 1688 ซึ่งจะช่วยให้คุณขายสินค้าได้ทันทีโดยไม่ต้องลงทุนในสต็อก นอกจากนี้คุณควรพูดคุยรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดส่งสินค้าและเงื่อนไขอื่นๆ กับซัพพลายเออร์อย่างชัดเจนเพื่อให้มั่นใจในกระบวนการทำงาน
4. ลงขายสินค้าบนช่องทางการขาย ตั้งราคาขายและคำนวณกำไร
หลังจากที่คุณเลือกสินค้ากับซัพพลายเออร์แล้ว คุณลงขายสินค้าบนร้านค้า และการตั้งราคาขายต้องคำนึงถึงต้นทุนสินค้า ค่าใช้จ่ายในการจัดส่ง และกำไรที่คุณต้องการได้ การตั้งราคาขายควรมีความยืดหยุ่นและคำนึงถึงความสามารถในการแข่งขันในตลาด
5. ทำการตลาดออนไลน์
หลังจากเปิดร้านและเลือกสินค้าที่จะขายแล้ว คุณต้องทำการตลาดเพื่อดึงดูดลูกค้าและมีออเดอร์ คุณสามารถใช้เครื่องมือออนไลน์ต่างๆ เช่น การใส่ Keyword กับชื่อสินค้าและคำอธิบาย การทำโฆษณา การไฟล์สด หรือการทำ SEO บนเว็บไซต์ เพื่อเพิ่มการเข้าถึงและยอดขาย
6. ให้ซัพพลายเออร์ช่วยจัดส่งสินค้าให้ลูกค้าโดยตรง
เมื่อมีลูกค้าสั่งซื้อสินค้าเข้ามา คุณสามารถดาวน์โหลดใบปะหน้าพัสดุจากคำสั่งซื้อและส่งเป็นไฟล์ให้กับซัพพลายเออร์เพื่อให้เขาจัดส่งสินค้าไปยังลูกค้าโดยตรง หรือคุณสามารถสั่งซื้อสินค้าจากร้านซัพพลายเออร์และส่งสินค้ามาถึงบ้านของคุณก่อน แล้วค่อยจัดส่งสินค้าไปยังลูกค้าเอง หากเลือกวิธีนี้อาจเสี่ยงต่อการจัดส่งที่ล่าช้า จึงจำเป็นต้องประเมินแลพิจารณาอย่างรอบคอบ
7. ติดตามการขายและการจัดส่ง
แม้ว่าในการทำ Dropship ผู้ขายจะไม่ต้องจัดการกับการจัดส่งสินค้าโดยตรง แต่คุณต้องคอยติดตามสถานะการจัดส่งเพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าได้รับสินค้าในเวลาที่เหมาะสม และพร้อมที่จะจัดการกับข้อร้องเรียนหากเกิดปัญหา
สรุป
การทำ Dropship เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นขายของออนไลน์โดยไม่ต้องมีเงินทุนจำนวนมาก และไม่ต้องการจัดการกับสต็อกสินค้า แต่ก็มีข้อควรระวังในการทำธุรกิจนี้ เช่น การแข่งขันที่สูง กำไรที่ไม่มาก และความยากลำบากในการควบคุมคุณภาพสินค้า สำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจ Dropship ควรวางแผนและศึกษาให้ดีเกี่ยวกับการเลือกสินค้า การเลือกซัพพลายเออร์ที่เหมาะสม และการทำการตลาดออนไลน์เพื่อดึงดูดลูกค้า หากคุณทำตามขั้นตอนเหล่านี้อย่างถูกต้องและมีการบริหารจัดการที่ดี Dropship สามารถเป็นช่องทางทำกำไรที่ดีสำหรับคุณในการทำธุรกิจขายของออนไลน์
BigSeller เป็นระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ที่ช่วยให้คุณสามารถรวบรวมสินค้า คำสั่งซื้อ และสต็อกทั้งหมดไว้ในระบบเดียว โดยมีเครื่องมือหลากหลายที่ช่วยให้การดำเนินธุรกิจของคุณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การดึงสินค้าจาก Shopee, Lazada, TikTok และ Shopify เพื่อเปิดร้านได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงสามารถคัดลอกสินค้าจากร้านหนึ่งไปยังร้านอื่นของตนเองได้ง่ายๆ การจัดการคำสั่งซื้อจากทุกช่องทางในชุดเดียวกัน การลิ้งค์สต็อกสินค้าทุกแพลตฟอร์ม และการตรวจสอบรายงานการขายและยอดขายแบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยให้ร้านค้าของคุณโดดเด่นในตลาดที่มีการแข่งขันสูงในปัจจุบัน ปัจจุบัน BigSeller ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้งานมากกว่า 100,000 รายในประเทศไทย อย่ารอช้า! 👉 คลิกลงทะเบียน BigSeller 👈 เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม และเริ่มต้นเส้นทางการดำเนินธุรกิจของคุณอย่างมีประสิทธิภาพได้ทันที พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้ค้ารายใหญ่กับ BigSeller!

Dropship คืออะไร
Dropship คือโมเดลธุรกิจที่ผู้ขายไม่จำเป็นต้องลงทุนในสินค้าหรือเก็บสต็อกไว้ล่วงหน้า เมื่อมีลูกค้าสั่งซื้อสินค้าจากร้านค้าออนไลน์ ผู้ขายจะสั่งซื้อสินค้าจากซัพพลายเออร์หรือผู้จัดจำหน่ายที่ทำการจัดส่งสินค้าโดยตรงไปยังลูกค้า โดยที่ผู้ขายไม่ต้องจัดการกับสินค้าเองเลย ซึ่งทำให้ธุรกิจแบบ Dropship เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นขายของออนไลน์โดยไม่ต้องมีเงินทุนจำนวนมาก
ข้อดีของการทำ Dropship
- ไม่ต้องลงทุนในสินค้าหรือสต็อก: คุณไม่จำเป็นต้องซื้อสินค้าล่วงหน้า ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงทางการเงินได้มาก
- ไม่ต้องมีพื้นที่เก็บสินค้า: คุณสามารถทำธุรกิจจากที่ไหนก็ได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการจัดเก็บสินค้าหรือการขนส่ง
- ความยืดหยุ่นในการเลือกสินค้าขาย: คุณสามารถเลือกขายสินค้าหลายประเภทโดยไม่ต้องกังวลเรื่องสต็อกที่เหลือ
- ต้นทุนเริ่มต้นต่ำ: เนื่องจากไม่ต้องลงทุนในสินค้าและสต็อก การเริ่มต้นธุรกิจ Dropship จึงไม่ต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก
ข้อเสียของการทำ Dropship
- กำไรน้อย: เนื่องจากการขายสินค้าผ่าน Dropship ผู้ขายต้องแบ่งกำไรกับผู้จัดจำหน่าย ซึ่งอาจทำให้กำไรต่อตัวสินค้าต่ำลง
- การควบคุมคุณภาพสินค้า: เนื่องจากสินค้าจะถูกส่งจากซัพพลายเออร์หรือผู้จัดจำหน่ายไปยังลูกค้าโดยตรง ผู้ขายไม่สามารถควบคุมคุณภาพหรือกระบวนการจัดส่งได้
- การแข่งขันสูง: ธุรกิจ Dropship มีการแข่งขันสูงมาก เนื่องจากหลายคนสามารถเข้ามาทำได้ง่าย ทำให้การหาช่องทางทำกำไรที่โดดเด่นเป็นเรื่องยาก
- เวลาการจัดส่งที่ยาวนาน: หากผู้จัดจำหน่ายในต่างประเทศส่งสินค้าผ่านทางขนส่งระหว่างประเทศ การจัดส่งอาจใช้เวลานาน ซึ่งอาจทำให้ลูกค้าไม่พอใจ

เริ่มต้นทำ Dropship อย่างไร
การเริ่มต้นทำ Dropship ไม่ได้ยากเกินไป แต่ต้องมีขั้นตอนที่ชัดเจนในการวางแผนและดำเนินการอย่างถูกต้อง ต่อไปนี้คือขั้นตอนการเริ่มต้นธุรกิจ Dropship:
1. เลือกสินค้าที่จะขาย
การเลือกสินค้าที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญมาก คุณควรเลือกสินค้าที่มีความต้องการสูงในตลาด แต่ไม่ควรเลือกสินค้าที่มีการแข่งขันสูงเกินไป ควรพิจารณาเรื่องคุณภาพ ราคา และความแตกต่างจากคู่แข่ง
2. เลือกแพลตฟอร์มการขาย
คุณสามารถเลือกขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ เช่น Shopee, Lazada, TikTok หรือ Shopify ขึ้นอยู่กับความสะดวกและความถนัดในการใช้งาน
3. หาผู้จัดจำหน่ายหรือซัพพลายเออร์
การเลือกซัพพลายเออร์หรือผู้จัดจำหน่ายที่น่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญ คุณสามารถค้นหาซัพพลายเออร์หรือผู้จัดจำหน่ายที่มีบริการ Dropship ผ่านเว็บไซต์ต่างๆ เช่น ซัพพลายเออร์ในประเทศ, AliExpress หรือ 1688 ซึ่งจะช่วยให้คุณขายสินค้าได้ทันทีโดยไม่ต้องลงทุนในสต็อก นอกจากนี้คุณควรพูดคุยรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดส่งสินค้าและเงื่อนไขอื่นๆ กับซัพพลายเออร์อย่างชัดเจนเพื่อให้มั่นใจในกระบวนการทำงาน
4. ลงขายสินค้าบนช่องทางการขาย ตั้งราคาขายและคำนวณกำไร
หลังจากที่คุณเลือกสินค้ากับซัพพลายเออร์แล้ว คุณลงขายสินค้าบนร้านค้า และการตั้งราคาขายต้องคำนึงถึงต้นทุนสินค้า ค่าใช้จ่ายในการจัดส่ง และกำไรที่คุณต้องการได้ การตั้งราคาขายควรมีความยืดหยุ่นและคำนึงถึงความสามารถในการแข่งขันในตลาด
5. ทำการตลาดออนไลน์
หลังจากเปิดร้านและเลือกสินค้าที่จะขายแล้ว คุณต้องทำการตลาดเพื่อดึงดูดลูกค้าและมีออเดอร์ คุณสามารถใช้เครื่องมือออนไลน์ต่างๆ เช่น การใส่ Keyword กับชื่อสินค้าและคำอธิบาย การทำโฆษณา การไฟล์สด หรือการทำ SEO บนเว็บไซต์ เพื่อเพิ่มการเข้าถึงและยอดขาย
6. ให้ซัพพลายเออร์ช่วยจัดส่งสินค้าให้ลูกค้าโดยตรง
เมื่อมีลูกค้าสั่งซื้อสินค้าเข้ามา คุณสามารถดาวน์โหลดใบปะหน้าพัสดุจากคำสั่งซื้อและส่งเป็นไฟล์ให้กับซัพพลายเออร์เพื่อให้เขาจัดส่งสินค้าไปยังลูกค้าโดยตรง หรือคุณสามารถสั่งซื้อสินค้าจากร้านซัพพลายเออร์และส่งสินค้ามาถึงบ้านของคุณก่อน แล้วค่อยจัดส่งสินค้าไปยังลูกค้าเอง หากเลือกวิธีนี้อาจเสี่ยงต่อการจัดส่งที่ล่าช้า จึงจำเป็นต้องประเมินแลพิจารณาอย่างรอบคอบ
7. ติดตามการขายและการจัดส่ง
แม้ว่าในการทำ Dropship ผู้ขายจะไม่ต้องจัดการกับการจัดส่งสินค้าโดยตรง แต่คุณต้องคอยติดตามสถานะการจัดส่งเพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าได้รับสินค้าในเวลาที่เหมาะสม และพร้อมที่จะจัดการกับข้อร้องเรียนหากเกิดปัญหา
สรุป
การทำ Dropship เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นขายของออนไลน์โดยไม่ต้องมีเงินทุนจำนวนมาก และไม่ต้องการจัดการกับสต็อกสินค้า แต่ก็มีข้อควรระวังในการทำธุรกิจนี้ เช่น การแข่งขันที่สูง กำไรที่ไม่มาก และความยากลำบากในการควบคุมคุณภาพสินค้า สำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจ Dropship ควรวางแผนและศึกษาให้ดีเกี่ยวกับการเลือกสินค้า การเลือกซัพพลายเออร์ที่เหมาะสม และการทำการตลาดออนไลน์เพื่อดึงดูดลูกค้า หากคุณทำตามขั้นตอนเหล่านี้อย่างถูกต้องและมีการบริหารจัดการที่ดี Dropship สามารถเป็นช่องทางทำกำไรที่ดีสำหรับคุณในการทำธุรกิจขายของออนไลน์
BigSeller เป็นระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ที่ช่วยให้คุณสามารถรวบรวมสินค้า คำสั่งซื้อ และสต็อกทั้งหมดไว้ในระบบเดียว โดยมีเครื่องมือหลากหลายที่ช่วยให้การดำเนินธุรกิจของคุณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การดึงสินค้าจาก Shopee, Lazada, TikTok และ Shopify เพื่อเปิดร้านได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงสามารถคัดลอกสินค้าจากร้านหนึ่งไปยังร้านอื่นของตนเองได้ง่ายๆ การจัดการคำสั่งซื้อจากทุกช่องทางในชุดเดียวกัน การลิ้งค์สต็อกสินค้าทุกแพลตฟอร์ม และการตรวจสอบรายงานการขายและยอดขายแบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยให้ร้านค้าของคุณโดดเด่นในตลาดที่มีการแข่งขันสูงในปัจจุบัน ปัจจุบัน BigSeller ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้งานมากกว่า 100,000 รายในประเทศไทย อย่ารอช้า! 👉 คลิกลงทะเบียน BigSeller 👈 เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม และเริ่มต้นเส้นทางการดำเนินธุรกิจของคุณอย่างมีประสิทธิภาพได้ทันที พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้ค้ารายใหญ่กับ BigSeller!
ใช้ BigSeller ก้าวสู่การเป็นผู้ค้ารายใหญ่
ฟีเจอร์การดึงสินค้าจากเว็บอื่น
คุณสามารถดึงสินค้าจากเว็บอื่นเพื่อลงขายในร้านค้าของตนเอง สามารถเปิดร้านค้าออนไลน์ได้อย่างรวดเร็ว