สรุปเหตุการณ์มหากาพย์ TikTok จากถูกแบน สู่การกลับมา! และอนาคตที่ยังไม่แน่นอน?
โอ๊ต 24 ก.พ. 2025 07:51
TikTok แพลตฟอร์มวิดีโอคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามทั่วโลก ที่ได้เผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ท้าทายอย่างมากในสหรัฐอเมริกาในช่วงที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากประเด็นหลักความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้ ความสัมพันธ์กับรัฐบาลจีน และความเป็นไปได้ที่แอปพลิเคชันนี้จะถูกใช้เป็นเครื่องมือในการสอดแนมข้อมูล ซึ่งส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อผู้ใช้งาน ครีเอเตอร์ ธุรกิจขนาดเล็ก และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม ณ ตอนนี้ TikTok สามารถกลับมาให้บริการได้อีกครั้ง และในเมื่อสถานกาณณ์ปัจจุบันดูจะเริ่มนิ่งแล้ว BigSeller ขอสรุปเหตุการณ์ให้ได้อ่านกัน
จุดเริ่มต้นของความขัดแย้ง
ในปี 2020 โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา มีความกังวลว่าแอปพลิเคชัน TikTok อาจถูกใช้เป็นเครื่องมือในการสอดแนมข้อมูลของชาวอเมริกัน และอาจถูกบังคับให้ส่งมอบข้อมูลผู้ใช้ให้กับรัฐบาลจีนตามกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติของจีน นอกจากนี้ ยังมีความกังวลว่า TikTok อาจถูกใช้เพื่อควบคุมหรือมีอิทธิพลต่อเนื้อหาที่ผู้ใช้ในสหรัฐฯ เห็น ส่งผลให้สหรัฐฯ พิจารณาแบน TikTok หรือบังคับให้บริษัทแม่อย่าง ByteDance ขายกิจการในสหรัฐฯ ซึ่ง TikTok ยืนกรานและปฏิเสธข้อกล่าวหาเหล่านั้น พร้อมยืนยันว่าข้อมูลผู้ใช้ในสหรัฐฯ ถูกเก็บรักษาอย่างปลอดภัย
กระนั้นทางสหรัฐฯ ก็ยังมีความกังวลด้านความมั่นคง จึงนำไปสู่การถกเถียงและมาตรการทางกฎหมาย โดยสหรัฐฯ บังคับให้บริษัทจีนต้องให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการเก็บรวบรวมข้อมูลหากได้รับการร้องขอ โดยหากไม่ให้ความร่วมมือ TikTok จะต้องถูกปิดกั้นการดาวน์โหลดแอป TikTok ห้ามการทำธุรกรรมใด ๆ และในท้ายที่สุดจะถูกแบนไม่ให้ใช้งานในสหรัฐอเมริกา
อย่างไรก็ตามในปี 2021 การต่อสู้ในชั้นศาลจำต้องหยุดชะงักลงชั่วคราว เพราะเป็นช่วงเวลาที่ตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้เปลี่ยนไปอยู่ในมือของ โจ ไบเดน (Joe Biden) ซึ่งเขาได้เซ็นคำสั่งพิเศษให้ ปลดแบน TikTok ออกไปก่อน แต่ก็ได้สั่งให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สืบสวนว่า แพลตฟอร์มมีความเสี่ยงจะเป็น ภัยต่อความมั่นคงของชาติสหรัฐฯ หรือไม่
ทาง TikTok เองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ทำยื่นอุทรณ์ และต่อสู้คดีในชั้นศาลไต่สวนเรื่อยมา โดยในปี 2023 CEO ของ TikTok อย่าง โจวโซ่วจือ (Shou Zi Chew) ได้ออกมาแถลงการณ์ต่อสาธารณชนว่าบริษัทไม่ได้ตกอยู่ภายใต้หรือถูกควบคุมโดยรัฐบาลจีน หากแต่ TikTok เป็นเพียงบริษัทเอกชนที่มีบริษัทแม่อยู่ในประเทศจีนเท่านั้น
แม้จะพยายามทำทุกทาง แต่เหล่า ส.ส.สหรัฐฯ มองว่า การที่ ByteDance เป็นบริษัทจีน และอยู่ภายใต้กฎหมายของรัฐบาลจีน ก็ยังสุ่มเสี่ยงที่บริษัทอาจส่งข้อมูลใน TikTok ให้กับทางการจีน ทำให้ในปี 2025 สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกาได้ผ่านร่างกฎหมายคุ้มครองชาวอเมริกันจากแอปพลิเคชันที่รัฐศัตรูต่างชาติควบคุม (Protecting Americans from Foreign Adversary Controlled Applications Act) ซึ่งมีผลบังคับให้ ByteDance บริษัทแม่ต้องขาย TikTok ให้ธุรกิจในสหรัฐฯ ไม่เช่นนั้นจะถูกแบนจากทุกแพลตฟอร์มภายใน 6 เดือน ซึ่งผลสรุปตอนแรกก็เป็นเช่นนั้น TikTok ในสหรัฐฯ ได้ถูกปิดตัวลงในวันที่ 18 มกราคม ก่อน 23.00 น. แต่แล้วปาฎิหารย์ก็ได้เกิดขึ้น …
การกลับมาของ TikTok! และอนาคตที่ยังไม่แน่นอน?
วันที่ 19 มกราคม 13.50 น.หรือถัดจากวันที่ 18 มกราคมเพียง 14 ชั่วโมง TikTok ในสหรัฐฯ ก็ได้กลับมาออนไลน์อีกครั้ง เนื่องมาจาก โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้กลายเป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง เขาก็ได้ลงนามคำสั่งบริหาร (Executive Order) ที่ยืดเวลาให้ TikTok อีก 75 วัน ในการหาข้อสรุปทิศทางการดำเนินงานแพลตฟอร์มในสหรัฐฯ อ้างอิงตามกฎหมายข้อกำหนดเดิมที่อ้างเหตุผล ‘ความมั่นคงของชาติ’ ซึ่งสุดท้ายแล้ว ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok จะต้องเลือกว่าจะขายหรือปิดตัวลง โดย ณ ขณะนี้ชาวอเมริกันยังคงสามารถเข้าใช้แพลตฟอร์มได้
อย่างไรก็ตาม การกลับมาของ TikTok ไม่ได้หมายความว่าปัญหาทุกอย่างได้รับการแก้ไขแล้ว ความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้และความสัมพันธ์กับรัฐบาลจีนยังคงมีอยู่ รัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงจับตาดู TikTok อย่างใกล้ชิด และอาจมีการออกมาตรการเพิ่มเติมในอนาคตหากพบว่า TikTok ยังคงเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ
นอกจากนี้ TikTok ยังต้องเผชิญกับความท้าทายในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้งานและรัฐบาลสหรัฐฯ ว่าบริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะปกป้องข้อมูลผู้ใช้และปฏิบัติตามกฎหมายของสหรัฐฯ TikTok อาจต้องลงทุนเพิ่มเติมในมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูล และให้ความร่วมมือกับรัฐบาลสหรัฐฯ ในการตรวจสอบอัลกอริทึมของแอป
แต่ทั้งนี้ ก็ได้มีนักวิเคราะห์จำนวนมากได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ร่างกฎหมายแบน TikTok ของทรัมป์ว่าตัวเขามีเป้าหมายเพื่อโจมตี Facebook ซึ่งเป็นคู่แข่งทางการเมืองของเขา ทรัมป์อาจมองว่าการแบน TikTok จะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับ Facebook มากกว่า และเขาไม่ต้องการที่จะสนับสนุนบริษัทที่เป็นศัตรูกับเขา
TikTok ในเส้นทางที่ไม่แน่นอนและอนาคตที่ยังไม่ชัดเจน
เหตุการณ์เกี่ยวกับ TikTok ในสหรัฐฯ ได้สะท้อนถึงความซับซ้อนในด้านเทคโนโลยี ความมั่นคงแห่งชาติ และสิทธิส่วนบุคคล การที่ TikTok ถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับความปลอดภัยและความสัมพันธ์กับจีน ทำให้เกิดแรงกดดันจากรัฐบาล ซึ่งส่งผลต่อผู้ใช้งานและธุรกิจอย่างมาก
ในอนาคต ความไม่แน่นอนยังคงอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงจับตามอง TikTok อย่างใกล้ชิด หากไม่มีมาตรการที่ชัดเจนในการปกป้องข้อมูลผู้ใช้ อาจเกิดสถานการณ์ใหม่ ๆ ที่ทำให้ TikTok ต้องเผชิญกับแรงกดดันอีกครั้ง
นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในสหรัฐฯ ยังสามารถส่งผลกระทบต่อสถานการณ์นี้ได้ หากมีผู้นำคนใหม่เข้ามาในตำแหน่งและมีท่าทีที่แตกต่างจากเดิม ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีนก็จะมีบทบาทสำคัญในการกำหนดอนาคตของ TikTok ในตลาดสหรัฐฯ
สุดท้ายนี้ การพัฒนาของ TikTok ในอนาคตจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งด้านเทคโนโลยี การเมือง และความคิดเห็นของผู้ใช้งาน ซึ่งจะต้องติดตามกันต่อไปว่าบริษัทจะสามารถรักษาความนิยมและความไว้วางใจจากผู้ใช้งานได้อย่างไรในสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนนี้
สิ่งที่แน่นอนคือเหตุการณ์นี้ได้สร้างความตระหนักถึงความสำคัญของความปลอดภัยของข้อมูลและความเป็นส่วนตัวในการใช้งานแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย และกระตุ้นให้เกิดการอภิปรายเกี่ยวกับความรับผิดชอบของบริษัทเทคโนโลยีในการปกป้องผู้ใช้งานของตน ความท้าทายที่ TikTok เผชิญในสหรัฐฯ เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของปัญหาที่แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่ และเป็นสัญญาณว่าเราจำเป็นต้องมีกฎระเบียบและมาตรฐานที่เข้มงวดมากขึ้นเพื่อปกป้องสิทธิของผู้ใช้งานในยุคดิจิทัล
แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ปฎิเสธไม่ได้ว่า Tiktok ถือได้ว่าเป็นแพลตฟอร์มที่มาแรงเป็นอย่างมากในขณะนี้ ดังนั้นถ้าคุณในฐานะผู้ขายยังไม่มีผู้ช่วยดูแลระบบหลังบ้าน ยกให้เป็นหน้าที่ BigSeller ! ให้ทางเราช่วยคุณสิ เพราะเราคือบริการระบบหลังบ้านดูแลร้านค้าออนไลน์เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มชั้นนำได้มากกว่า 16 แพลตฟอร์ม ช่วยจัดการออเดอร์และสต็อกสินค้าอัตโนมัติ ช่วยลดต้นทุนในการดำเนินงาน ใช้งานได้ทั้งบนเบราเซอร์ และสมาร์ตโฟนทั้ง iOS และ Android ปัจจุบัน BigSeller ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้งานกว่า 100,000 รายในประเทศไทย อย่ารอช้า! คลิกลงทะเบียน BigSeller เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม และเริ่มต้นเส้นทางการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพของคุณได้ทันที! ใช้ BigSeller ทันทีเพื่อก้าวสู่การเป็นผู้ค้ารายใหญ่
แหล่งอ้างอิง:1. The Standard 2.PositioningMag