Shopee vs Lazada vs TikTok Shop แพลตฟอร์มไหนตอบโจทย์ขายของออนไลน์ปี 2025!?
โอ๊ต 14 มี.ค. 2025 04:27
เศรษฐกิจโลกอาจจะยังคงลูกผีลูกคน แต่เมื่อมองไปที่ตลาด E-Commerce กลับมีอัตราการเติบโตที่มากขึ้นเรื่อย ๆ และไทยถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเติบโตด้านอีคอมเมิร์ซสูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งแน่นอนว่าแพลตฟอร์มหลักที่ผู้คนนิยมใช้งานคงหนีไม่พ้น Shopee, Lazada และ TikTok Shop ที่มีจุดแข็ง จุดอ่อน และแนวทางที่ส่งเสริมพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์แตกต่างกันออกไป ในบทความนี้ BigSeller นำข้อมูลของแต่ละแพลตฟอร์มมาช่วยให้ตัดสินใจโดยง่ายว่าเจ้าไหนเหมาะกับคุณ!?
Shopee แพลตฟอร์มยอดนิยมที่ครองตลาดไทย
Shopee แพลตฟอร์ม E-Commerce ที่เปิดตัวเมื่อปี 2015 และเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยจากข้อมูลสถิติในปี 2024 ที่ผ่านมา Shopee ถือเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทย และฟีเจอร์ Shopee Live ยังได้รับความนิยมอย่างมาก
ข้อดีของ Shopee
- จำนวนผู้ใช้งานสูง มีผู้ใช้มากกว่า 30 ล้านคนในไทยต่อเดือน
- เครื่องมือโปรโมตร้านเยอะ เช่น Shopee Ads, Flash Sale, Coins Cashback ที่ช่วยผู้ขายโปรโมตสินค้าและเพิ่มยอดขาย
- มีแคมเปญลดราคาบ่อย เช่น 9.9, 10.10, 11.11 ที่ดึงดูดลูกค้าได้มาก
- รองรับการส่งฟรี (Free Shipping) มีระบบซับซิดี้ค่าขนส่งช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น
- Shopee Live และ Shopee Video ช่วยให้ร้านค้าสร้างคอนเทนต์เพื่อเพิ่มยอดขายได้
ข้อเสียของ Shopee
- ค่าธรรมเนียมการขาย 5.35 - 11.77% ต่อออเดอร์ (ขึ้นอยู่กับหมวดหมู่สินค้า)
- Shopee เปลี่ยนแปลงนโยบายบ่อย เช่น ค่าธรรมเนียมหรือเงื่อนไขโปรโมชัน
- รีวิวร้านค้าและสินค้ามีผลต่อยอดขายอย่างมาก
Lazada แพลตฟอร์มที่เหมาะกับแบรนด์และร้านค้าระดับกลางขึ้นไป

Lazada เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่อยู่คู่ตลาดไทยมายาวนานตั้งแต่ปี 2012 และเป็นบริษัทลูกของ Alibaba ทำให้มีโครงสร้างที่คล้ายกับ Taobao และ Tmall ในจีน โดย Lazada มุ่งเน้นการขายสินค้าคุณภาพดีและรองรับร้านค้าแบรนด์ (LazMall) มากกว่า Shopee
ข้อดีของ Lazada
- เปิดร้าน Lazada ครั้งแรกมีสิทธิประโยชน์มากมาย เช่น ค่าธรรมเนียมการชำระเงิน 0% นาน 30 วัน,
โปรแกรมเงินคืนทุกวัน 0% นาน 30 วัน, โปรแกรมส่งพิเศษ 0% นาน 30 วัน เป็นต้น
- มีคอร์สสอนการขายฟรี “Lazada University”
- ระบบ Flash Sale และโปรโมชั่นน่าสนใจ – มีแคมเปญใหญ่ เช่น 9.9, 11.11
- มีฟีเจอร์ LazLive (Live Streaming) – เพิ่มโอกาสสร้างยอดขายผ่านไลฟ์สด
- หากไม่มีโกดังของตัวเอง สามารถใช้เลือกใช้โกดังของ Lazada ที่อยู่ในจีน ฮ่องกง และสิงคโปร์
ข้อเสียของ Lazada
- การแข่งขันสูง โดยเฉพาะสินค้าจากต่างประเทศอย่างจีน
- แก้ไขสินค้าค่อนข้างยาก
- ระบบ UI/UX ซับซ้อนกว่าคู่แข่ง
TikTok Shop – แพลตฟอร์มเพื่อครีเอเตอร์สู่การเป็นผู้ค้าผ่านคอนเทนต์
TikTok Shop จากแพลตฟอร์มคอนเทนต์สาย Short-Form Video สู่การเขยิบเข้าหาตลาดอีคอมเมิร์ซที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วจากพฤติกรรมการซื้อสินค้าผ่านวิดีโอสั้นและไลฟ์สด
ข้อดี TikTok Shop
- การขายผ่านวิดีโอคอนเทนต์ช่วยให้คนตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น
- เหมาะกับสินค้าที่มีการสาธิต เช่น เครื่องสำอาง, แฟชั่น, สินค้าไลฟ์สไตล์ค่าธรรมเนียมต่ำกว่า Shopee และ Lazada – อยู่ที่ 2 - 5% (ขึ้นอยู่กับหมวดหมู่สินค้า)
- โอกาสปั้นแบรนด์ใหม่ได้ง่าย ร้านใหม่ที่มีคอนเทนต์ดีสามารถโตเร็วมาก
- มีฟีเจอร์ Affiliate Marketing ให้ Influencer ช่วยขายสินค้าได้
ข้อเสีย TikTok Shop
- ไม่เหมาะกับสินค้าราคาสูงเพราะส่วนใหญ่มียอดซื้อเฉลี่ยต่อชิ้นต่ำกว่าคู่แข่ง
- ระบบหลังบ้านยังไม่สมบูรณ์บางครั้งการซิงก์ข้อมูลสต็อกยังมีปัญหา
- มีข้อจำกัดด้านการโฆษณา TikTok มีนโยบายโฆษณาที่เข้มงวดเกี่ยวกับอวดอ้างสรรพคุณ
สรุปให้เข้าใจง่ายกว่านั้น Shopee มีฐานลูกค้าใหญ่สุดในไทย มีผู้ใช้มากกว่า 30 ล้านคนต่อเดือน ทำให้มีโอกาสขายได้สูงที่สุด แต่ข้อเสียเป็นค่าธรรมเนียมการขายสูงสุดถึง 11.77% และมักเปลี่ยนนโยบายบ่อย Lazada มีข้อดีคือเหมาะสำหรับร้านค้าที่ต้องการขายสินค้าคุณภาพสูงหรือแบรนด์ LazMall มีโปรแกรมสนับสนุนร้านค้าใหม่ ส่วนข้อเสียเป็นการแข่งขันที่สูง ต้องแข่งกับร้านค้าแบรนด์และสินค้าจากจีนที่เข้ามาตีตลาด ปิดท้ายด้วย TikTok Shop ที่มีข้อดีคือเหมาะกับร้านค้าที่ใช้คอนเทนต์วิดีโอและไลฟ์สดช่วยขาย มีโอกาสสร้างยอดขายเร็ว ส่วนข้อเสียคือไม่เหมาะกับสินค้าราคาสูง เพราะลูกค้าบนแพลตฟอร์มมักนิยมสินค้าราคาถูกและตัดสินใจซื้อง่าย
แต่ไม่ว่าจะเลือกใช้แพลตฟอร์มไหน ถ้าคุณมีตัวช่วยดี ๆ เป็นบริการดูแลหลังบ้านร้านค้าออนไลน์ ก็จะยิ่งทำให้การขายนั้นมีประสิทธิภาพเป็นแน่! ซึ่งทั้ง 3 แพลตฟอร์มระบบของเราก็รองรับ จัดการออเดอร์ได้ในที่เดียวอีกด้วย! อย่ารอช้า! คลิกลงทะเบียน BigSeller วันนี้ เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม และเริ่มต้นเส้นทางสู่การเป็นผู้ค้ารายใหญ่ได้เลย
อ้างอิง: marketingoops , ประชาชาติธุรกิจ , blog.fastwork