Blog > ขายของออนไลน์ > ประกันสินค้าควรทำหรือไม่? หากไม่ทำแล้วเป็นอะไรไหม?

ประกันสินค้าควรทำหรือไม่? หากไม่ทำแล้วเป็นอะไรไหม?

Khun Big 23 ก.พ. 2024 01:47

เรื่องเล็กที่ธุรกิจต้องรู้ : ประกันขนส่งสินค้าและประกันสินค้าทำแล้วดีอย่างไร

เมื่อพูดถึงการทำธุรกิจคุณนึกถึงอะไร?

แน่นอนว่าเมื่อเจอคำถามเช่นนี้ หลาย ๆ คนคงนึกถึง ‘คุณภาพ’ ของสินค้าและบริการมาเป็นลำดับแรก แต่อย่างไรก็ดี การพัฒนาธุรกิจให้มั่นคงและเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น ไม่เพียงแต่จะต้องควบคุมคุณภาพของสินค้าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ธุรกิจยังต้องให้ความสำคัญ ‘การดูแลบริการก่อนและหลังการขาย’ เช่นเดียวกัน เพราะลองคิดดูง่าย ๆ หากธุรกิจไหนไม่ดูแลและใส่ใจลูกค้าตั้งแต่ทีแรก ต่อให้ธุรกิจนั้นมีของคุณภาพสูงมากเพียงใด ธุรกิจก็ย่อมไม่สามารถสร้างฐานลูกค้าได้เหมือนอย่างที่ใจต้องการ

ด้วยเหตุนี้ นอกจากจะดูแลลูกค้าด้วยใจบริการ และตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างอ่อนน้อม สุภาพ และตรงไปตรงมาแล้ว อีกสิ่งที่ธุรกิจน้อยใหญ่ทุกประเภทต้องให้ความสำคัญในการดูแลบริการก่อน – หลังการขายก็คือการทำประกันสินค้าและประกันขนส่งสินค้าให้กับลูกค้านั่นเอง แล้วประกันสินค้าทำแล้วดีอย่างไร สามารถช่วยทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมั่นคงจริงไหม วันนี้ BigSeller มีคำตอบ

ประกันสินค้าคืออะไร
ก่อนที่จะไปพิจารณาว่าประกันสินค้าทำแล้วดีอย่างไร เจ้าของธุรกิจต้องมาทำความเข้าใจก่อนว่า แท้จริงแล้วประกันสินค้าคืออะไรกันแน่

ประกันสินค้า คือ สิทธิ์ในการคุ้มครองสินค้าที่ลูกค้าจะได้รับจากนโยบายบริษัทเรา โดยการจัดทำนโยบายการรับประกันเช่นนี้ ส่วนใหญ่แล้วธุรกิจจะทำการรับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจริง เช่น ทางบริษัทจะชดเชยค่าเสียหายตามมูลค่าจริงของสินค้า หากเกิดความเสียหายหรือสูญหายขึ้น หรืออาจชดเชยค่าเสียหายในกรณีที่ลูกค้ามีหลักฐาน ไม่ว่าจะเป็นคลิปวิดีโอในการเปิดใช้และทดลองสินค้า หรือการถ่ายรูปสินค้ามาเพื่อให้บริษัทตรวจประเมิน

อย่างไรก็ตาม ไม่เพียงแต่จะทำเป็นนโยบายในส่วนของบริษัทเท่านั้น เจ้าของธุรกิจยังสามารถใช้บริการประกันสินค้าร่วมกับบริการอื่นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เช่น เจ้าของธุรกิจอาจเลือกผูกบริการของตัวเองไว้กับบริการขนส่งทั้งในและต่างประเทศจากบริษัทต่าง ๆ เป็นต้น



ประกันขนส่งสินค้าคืออะไร?

ด้วยแพลตฟอร์มซื้อขายออนไลน์ที่เติบโตขึ้นอย่างไม่ขาดสาย และทำให้การสั่งสินค้าทั้งในและต่างประเทศนั้นง่ายขึ้นจากแต่ก่อนเป็นอย่างมาก ไม่เพียงแต่จะเข้าใจว่าประกันสินค้าคืออะไรเท่านั้น แต่เจ้าของธุรกิจยังต้องพิจารณาและเข้าใจรายละเอียดของประกันขนส่งสินค้าเช่นกัน

โดยประกันขนส่งสินค้าจะเป็นการคุ้มครองสินค้าที่ทำขึ้นระหว่างธุรกิจและบริษัทขนส่ง โดยการรับประกันจะเกิดขึ้นทันทีหลังจากใช้บริการขนส่งสินค้า อีกทั้งยังสามารถใช้ได้กับการขนส่งทั้งในและต่างประเทศ และยังสามารถใช้ได้กับการขนส่งทุกรูปแบบ เช่น ทางเครื่องบิน ทางเรือ รถไฟ รถมอเตอร์ไซค์ และรถยนต์ ซึ่งเงื่อนไขการรับประกันสินค้านั้นจะแตกต่างกันไปตามนโยบายของบริษัทขนส่ง และค่าใช้จ่ายในการทำประกัน แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว บริษัทขนส่งจะให้การรับประกันก็ต่อเมื่อสินค้ามีความเสียหาย บรรจุภัณฑ์มีการชำรุด ของหาย หรือยานพาหนะเสียหาย เกิดอุบัติเหตุ ไฟไหม้ หรือจมน้ำจนทำให้สินค้าเสียหาย



ธุรกิจควรทำประกันสินค้าที่ไหนดี?

หากใครกำลังสงสัย และไม่แน่ใจว่าจะทำประกันสินค้าที่ไหนดีถึงจะมีประสิทธิภาพสูงสุด BigSeller  ขอแนะนำให้เจ้าของธุรกิจทุกคนลองนำเงื่อนไขและการรับประกันสินค้าของแต่ละบริษัทมาพิจารณาด้วยตัวเองก่อนเพื่อมองหาเงื่อนไขที่เข้ากับสินค้า บริการ และแนวทางการดูแลลูกค้าของเราก่อน

โดยการพิจารณาเงื่อนไขนั้น BigSeller อยากให้เจ้าของธุรกิจเจาะลึกประเด็นต่าง ๆ ดังนี้

อย่าเลือกโดยดูที่ราคาเพียงอย่างเดียว แต่ให้ตรวจสอบตัวตนและความน่าเชื่อถือของบริษัทขนส่ง เช็กรีวิว รวมการให้บริการที่ผ่านมาให้เรียบร้อย เพราะหากเช็กไม่รอบคอบ ไม่แน่ว่าอาจเจอบริษัทที่ไม่มีการประกันอยู่จริง ซึ่งเสี่ยงต่อความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตเป็นอย่างยิ่ง
--พิจารณาข้อกำหนดตามสัญญาบริษัทให้เรียบร้อย โดยให้เช็กตามหัวข้อดังนี้
--ขอบเขตความรับผิดชอบของธุรกิจของเราและบริษัทขนส่ง
--การซื้อประกันภัยเพิ่มเติมของลูกค้า และเงื่อนไขเพิ่มเติม
--ระยะเวลาคุ้มครอง
--กรมธรรม์ประกันภัย และการรับประกันความเสียหาย

เจ้าของธุรกิจเมื่อรู้แบบนี้แล้ว นอกจากจะพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการให้มีคุณภาพต่อเนื่องแล้ว ก็อย่าลืมนำข้อดีประกันสินค้า รวมถึงเคล็ดลับการเลือกประกันขนส่งสินค้าที่ BigSeller นำมาฝากนี้ไปปรับใช้ และเลือกบริษัทขนส่งที่สามารถตอบโจทย์ทั้งธุรกิจของเราและความต้องการของลูกค้าด้วยนะ

 

สนใจใช้ระบบจัดการร้านค้าครบวงจร
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
Line: @bigseller