การจัดการคลังสินค้า : 3 ข้อที่ไม่ควรพลาดเมื่อมีสินค้าขายดี
Khun Big 15 พ.ค. 2024 06:28
เนื่องจากการพัฒนาและการเติบโตที่รวดเร็วของอุตสาหกรรม E-commerce การจัดการคลังสินค้าจึงกลายเป็นเรื่องน่าปวดหัวสำหรับผู้ขายจำนวนมาก วิธีการจัดการคลังสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ การลดต้นทุน และจัดเก็บคลังสินค้าให้เป็นระเบียบ กลายเป็นความท้าทายที่ผู้ขาย E-commerce ต้องเผชิญ
วันนี้เราจะมาพูดถึงวิธีที่ทำให้ผู้ขาย E-commerce สามารถจัดการคลังสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ แก้ปัญหา Pain Point ในการจัดการคลังสินค้า และข้อผิดพลาดขนาดใหญ่ในการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานว่ามีอะไรกันบ้าง
Pain Point 1:พนักงานคลังสินค้าจัดการไม่เป็นระเบียบ
ผู้ขาย E-commerce หลายรายพบเจอปัญหาในการจัดการคลังสินค้าที่วุ่นวาย รวมถึงปริมาณคลังสินค้าที่ไม่ถูกต้องและการวางสินค้าที่ไม่เป็นระเบียบ สาเหตุหลักคือการอบรมของพนักงานคลังสินค้าไม่เพียงพอและยังไม่มีคุณภาพมากพอ ส่งผลให้เปลืองกำลังคนและเวลาโดยไม่จำเป็น และยังเพิ่มความเสี่ยงในการจัดส่งสินค้าที่ไม่ถูกต้องอีกด้วย
Pain Point 2:วางเค้าโครงไม่สมเหตุสมผล
การวางเค้าโครงของผู้ขาย E-commerce บางรายไม่สมเหตุสมผล ส่งผลให้การเข้าออกของสินค้าไม่มีประสิทธิภาพและทำให้ต้นทุนโลจิสติกส์เพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกัน การวางเค้าโครงที่ไม่สมเหตุสมผลก็อาจจะส่งผลไปถึงความเสียหายและการสูญหายของสินค้าได้อย่างง่ายดาย
Pain Point 3:ขาดระบบการจัดการที่มีประสิทธิภาพ
ผู้ขาย E-commerce หลายรายยังไม่ได้สร้างระบบการจัดการคลังสินค้าที่มีประสิทธิภาพ และยังคงใช้วิธีการจัดการด้วยตนเองแบบเดิม ซึ่งไม่เพียงไร้ประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ยังเกิดข้อผิดพลาดได้ง่ายและเพิ่มความซับซ้อนในการจัดการอีกด้วย
แนวทางที่ดีในการแก้ไขปัญหาคลังสินค้าเมื่อมีสินค้าที่ขายดี คือแนวทางอะไร??
แนวทาง1.ใช้ระบบ ERP ที่มีประสิทธิภาพ
การเลือกระบบ ERP ที่เหมาะสมสามารถช่วยให้ผู้ขายได้รับระบบอัตโนมัติและความแม่นยำในการจัดการสินค้าคงคลัง ระบบการจัดการ ERP ที่ดีก็เหมือนกับมีพ่อบ้านส่วนตัว ซึ่งไม่เพียงแต่ควบคุมสถานะผลิตภัณฑ์และสถานะคำสั่งซื้อเท่านั้น แต่ยังติดตามสถานะสินค้าคงคลังได้ทุกที่ทุกเวลา ปัจจุบันมีระบบ ERP เพิ่มขึ้นมามากมาย
ซึ่ง Bigseller ก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ได้รับความนิยมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีผู้ใช้งานมากกว่า 780,000 รายและเป็นระบบที่ดีที่ผู้ใช้สามารถไว้วางใจได้ นอกจากนี้ยังมี irobotbox ERP และ tongtool ERP ฯลฯ ให้เลือก การใช้ ERP ที่ดีสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพของการจัดการสินค้าคงคลัง ลดต้นทุนค่าแรง และลดความเสี่ยงในการจัดส่งที่ไม่ถูกต้องได้อย่างดี
แนวทาง2.ปรับปรุงวางเค้าโครงคลังสินค้า
วางแผนเค้าโครงคลังสินค้าอย่างเหมาะสม และจัดหมวดหมู่สินค้าและพื้นที่จัดเก็บที่ชัดเจน เพื่อให้การเข้าและออกสินค้าเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกัน ใช้พื้นที่คลังสินค้าอย่างสมเหตุสมผลเพื่อลดต้นทุนการจัดเก็บให้มากที่สุด คุณสามารถวาดแบบร่างคลังสินค้าหรือใช้ซอฟต์แวร์ออกแบบเค้าโครงคลังสินค้าเพื่อวัดพื้นที่การทำงานของคลังสินค้า หลังจากออกแบบแบบร่างคลังสินค้าแล้ว คุณสามารถวางแผนเค้าโครงคลังสินค้าตามขอบเขตเฉพาะของคลังสินค้าได้ : 1) คลังสินค้ามีการกำหนดพื้นที่ในการทำงานของแต่ละพื้นที่โดยเฉพาะ และต้องกำหนดเส้นทางการทำงานให้เหมาะสมเพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2) คุณสามารถเพิ่มพื้นที่จัดเก็บได้มากขึ้นโดยขยายชั้นวาง เปลี่ยนสื่อจัดเก็บและลดความกว้างของทางเดินในพื้นที่ชั้นวางเพื่อเพิ่มพื้นที่จัดเก็บ 3)จำแนกประเภทสินค้าให้ชัดเจน สินค้าพิเศษบางอย่างต้องมีมาตรการกันน้ำ กันฝุ่น ป้องกันการระเบิด ป้องกันความชื้น ป้องกันการกัดกร่อน และมาตรการป้องกันอื่นๆ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายของสินค้า ดังนั้น จึงจำเป็นต้องแบ่งพื้นที่จัดเก็บสำหรับสินค้าพิเศษ
แนวทาง3.สร้างระบบการจัดการคลังสินค้าที่ดี
การจัดการคลังสินค้าเกี่ยวข้องกับการจัดการทั้งสินค้าและผู้คน สร้างระบบและกระบวนการจัดการคลังสินค้าที่สมบูรณ์ รวมถึงการเข้าออก สินค้า การนับสต๊อก เป็นต้น ในเวลาเดียวกัน การนับสต๊อกเป็นประจำเพื่อให้มั่นใจในความถูกต้องของปริมาณสินค้าคงคลัง นอกจากนี้แล้ว ระบบการจัดการสินค้าคงคลังอัจฉริยะสมัยใหม่อย่าง Internet of Things (IoT) ปัญญาประดิษฐ์ (AI) การใช้เทคโนโลยีล่าสุดเพื่อให้บรรลุการติดตามสินค้าคงคลังแบบ real time และการเติมสต๊อกอัตโนมัติ ระบบเหล่านี้สามารถคาดการณ์สถานะสต๊อก และปรับระดับสินค้าคงคลังโดยอัตโนมัติเพื่อลดสต็อกล้นและสถานการณ์ที่สินค้าหมดสต็อก
สรุป
ผู้ขาย E-commerce จัดการคลังสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ซึ่งเป็นจุดสำคัญในการพัฒนาระยะยาว จากคำแนะนำข้างต้น เชื่อว่าผู้ขาย E-commerce สามารถจัดการคลังสินค้าได้ดีขึ้น ปรับปรุงความสามารถในการแข่งขัน และประสบความสำเร็จมากขึ้น!