ในตลาดอีคอมเมิร์ซที่มีการแข่งขันสูงในปัจจุบัน ประสิทธิภาพและความแม่นยำเป็นกุญแจสำคัญในการประสบความสำเร็จ ไม่ว่าคุณจะเป็นร้านค้าออนไลน์ขนาดเล็กหรือธุรกิจอีคอมเมิร์ซขนาดใหญ่ การจัดการสินค้าคงคลังและคำสั่งซื้ออย่างมีประสิทธิภาพกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดความสำเร็จของธุรกิจ ระบบ ERP (Enterprise Resource Planning) เป็นเครื่องมือซอฟต์แวร์ที่รวมกระบวนการทางธุรกิจทั้งหมดเข้าด้วยกัน ช่วยให้ผู้ขายอีคอมเมิร์ซเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานได้อย่างครอบคลุม บทความนี้จะอธิบายเกี่ยวกับระบบ ERP และฟังก์ชันที่ยอดเยี่ยมของระบบ ERP ให้กับผู้ขาย

ระบบจัดการร้านค้าออนไลน์หรือะบบ ERP คืออะไร?

ระบบ ERP เป็นแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์แบบบูรณาการที่ใช้ในการจัดการธุรกิจ มันรวบรวมกระบวนการทางธุรกิจทั้งหมดของบริษัทเข้าด้วยกันผ่านฐานข้อมูลที่ใช้ร่วมกัน เพื่อให้ข้อมูลไหลระหว่างแผนกและทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ระบบ ERP มุ่งเน้นที่การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานของบริษัทและร้านค้าออนไลน์ ปรับปรุงการจัดสรรทรัพยากร และทำให้กระบวนการทางธุรกิจเป็นมาตรฐานและอัตโนมัติ
 

ระบบจัดการร้านค้าออนไลน์หรือระบบ ERP มีประโยชน์อะไรบ้าง

การใช้ระบบ ERP มีประโยชน์ที่สำคัญหลายประการ:
1. เพิ่มประสิทธิภาพ: ลดการดำเนินการด้วยตนเอง ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน และลดอัตราข้อผิดพลาดโดยการทำงานอย่างอัตโนมัติและมาตรฐาน
2. ข้อมูลเรียลไทม์: ให้ข้อมูลธุรกิจและรายงานการวิเคราะห์แบบเรียลไทม์ ช่วยให้ผู้บริหารตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด
3. ควบคุมค่าใช้จ่าย: ปรับปรุงการจัดสรรทรัพยากร ลดงานค้างของสินค้าคงคลังและการสิ้นเปลือง ประหยัดต้นทุนการดำเนินงาน
4. เพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า: เพิ่มความเร็วและความแม่นยำในการจัดการคำสั่งซื้อและสต็อก ปรับปรุงคุณภาพการบริการลูกค้า
5. บูรณาการข้อมูล: ข้อมูลแผนกต่างๆ ใช้ร่วมกัน ขจัดอุปสรรคในการไหลของข้อมูล และทำให้กระบวนการทางธุรกิจบูรณาการอย่างเต็มที่
 

ระบบจัดการร้านค้าออนไลน์--BigSeller

BigSeller เป็นระบบหลังบ้านหรือเรียกว่าระบบ ERP เป็นเครื่องมือที่ดีสำหรับผู้ขายอีคอมเมิร์ซ โดยมุ่งเน้นให้บริการโซลูชันการจัดการอีคอมเมิร์ซที่ครอบคลุม สะดวก และมีประสิทธิภาพ และมีความมุ่งมั่นในการให้บริการตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อตอบโจทย์ความต้องการผู้ใช้บริการ BigSeller ได้รับการเชื่อมต่อ API ของแพลตฟอร์ม E-commerce มากกว่า 15 แพลตฟอร์ม เช่น Shopee Lazada และ ฯลฯ รวมฟังก์ชันหลายอย่างเพื่อช่วยให้ผู้ขายจัดการสินค้า จัดการคำสั่งซื้อ จัดการสินค้คงคลัง และวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างง่ายดาย เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและเพิ่มการเติบโตของธุรกิจ ไม่ว่าคุณจะเป็นร้านค้าออนไลน์ขนาดเล็กหรือธุรกิจอีคอมเมิร์ซขนาดใหญ่ BigSeller สามารถตอบสนองทุกความต้องการของคุณและเพิ่มยอดขายของธุรกิจของคุณ
 

แนะนำฟังค์ชันใช้งานสะดวกและง่ายดายของ BigSeller

ระบบของ  BigSeller ช่วยจัดการธุรกิจได้อย่างไร ระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ของ BigSeller ช่วยให้ร้านค้าออนไลน์สามารถบริหารการขายในขั้นตอนเดิม


 

1. การจัดการสินค้า

1）ดึงสินค้า： BigSeller รองรับการดึงสินค้าจากแพลตฟอร์มอื่น ๆ ช่วยให้ผู้ขายสามารถเพิ่มรายการสินค้าได้อย่างรวดเร็วและเพิ่มประสิทธิภาพในการอัปเดตสินค้า
2）เพิ่มและลบสินค้า： ทำการเผยแพร่และเลิกการเผยแพร่สินค้าอย่างรวดเร็วด้วยการคลิกดำเนินการเป็นชุด ประหยัดเวลาและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
3）คัดลอกสินค้า：  รองรับการคัดลอกสินค้าจากร้านหนึ่งไปยังอีกร้านหนึ่ง
 

2. การจัดการคำสั่งซื้อ

1）การจัดการคำสั่งซื้อ: รองรับการจัดการคำสั่งซื้อแบบชุด รวมถึงการยืนยัน การจัดส่ง และบริการหลังการขาย เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
2）สร้างคำสั่งซื้อ: สร้างคำสั่งซื้อด้วยตนเอง ยืดหยุ่นในการจัดการสถานการณ์การขายต่างๆ เช่น คำสั่งซื้อ pos คำสั่งซื้อทางแชทหรือกิจกรรมการขายพิเศษ
3）พิมพ์ใบปะหน้า： สร้างและพิมพ์ใบปะหน้าโดยอัตโนมัติ ทำให้กระบวนการจัดส่งง่ายขึ้นและแม่นยำ
4）การจัดการยกเลิกคำสั่งซื้อ： การจัดการคำขอยกเลิกของลูกค้าอย่างรวดเร็ว ลดการสูญเสียที่เกิดจากการยกเลิกคำสั่งซื้อ และเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า
 

3. การจัดการสินค้าคงคลัง

1）รองรับ Stock-in และ Stock-out：เพิ่มความถูกต้องของข้อมูลสินค้าคงคลัง เพื่อไม่ให้เกินสต็อกหรือหมดสต็อก
2）การตัดสต็อกตามคำสั่งซื้อ： การตัดสต็อกตามคำสั่งซื้อโดยอัตโนมัติ เพื่อไม่ให้ขายเกินสต็อก รักษาสินค้าคงคลังให้สอดคล้องกับการขาย
3）การอัปเดตสต็อก： การอัปเดตจำนวนสต็อกไปยังแพลตฟอร์มการขายต่างๆ แบบเรียลไทม์ เพื่อให้สต็อกบนแพลตฟอร์มสอดคล้องกัน ลดความเสี่ยงในการขาย
4）การจัดการคลังสินค้า: รองรับการจัดการคลังสินค้าหลายคลัง ปรับปรุงโครงสร้างของคลังสินค้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการสต็อก
 

4. การเช็กดูรายงาน

1）รายงาน Store Health： ตรวจสอบสถานะการดำเนินงานของร้านค้าแบบเรียลไทม์ วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อระบุและแก้ไขปัญหา เพื่อให้ร้านค้าดำเนินงานอย่างราบรื่น
2）รายงานกำไร: รายงานการวิเคราะห์กำไรที่ละเอียด ช่วยให้ผู้ขายเข้าใจผลกำไรของแต่ละร้านค้า เพื่อการทำธุรกิจและปรับกลยุทธ์การขายให้เหมาะสม
3）รายงานคำสั่งซื้อ： รายงานการวิเคราะห์คำสั่งซื้อหลายมิติ ให้ข้อมูลที่ครอบคลุมตั้งแต่ได้รับคำสั่งซื้อใหม่จนถึงคำสั่งซื้อสำเร็จแล้ว ช่วยให้ผู้ขายปรับปรุงกระบวนการดำเนินงาน
4）แดชบอร์ดหรือแผนรายงาน： ดูข้อมูลรายวันแบบเรียลไทม์ รวมถึงยอดขาย จำนวนคำสั่งซื้อ รายละเอียดการจัดส่ง ฯลฯ ช่วยให้เข้าใจสถานการณ์ธุรกิจและปรับกลยุทธ์ได้ทันที
 

สรุป

จากการแนะนำข้างต้น เชื่อว่าคุณคงเข้าใจถึงระบบหลังบ้านหรือระบบ ERP และฟังก์ชันที่ยอดเยี่ยมของ BigSeller อย่างละเอียดแล้ว อย่าลังเลอีกต่อไป มาลงทะเบียนใช้งานตอนนี้เลย! การใช้ BigSeller เพื่อจัดการร้านค้าออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพและเพิ่มยอดขายให้ปังๆ กันเถอะ